จอมพลถนอม กิตติขจร กับจังหวัดตาก
จอมพลถนนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีคนที่ 10 ของประเทศไทย เป็นชาวจังหวัดตากโดยกำเนิด เกิดวันที่ 11 สิงหาคม 2454 ที่บ้านหนองหลวง อำเภอเมือง จังหวัดตาก มีพี่น้องรวม 8 คน เป็นบุตรของ ขุนโสภิตบรรณลักษณ์ (อำพัน กิตติขจร) และนางลิ้นจี่ กิตติขจร เริ่มต้นการศึกษาที่โรงเรียนวัดโคกพลู (อยู่ติดด้านหลังศาลสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช)อำเภอเมือง จังหวัดตาก
จอมพลถนอม กิตติขจร ได้สร้างคุณูปการไว้ให้แก่จังหวัดตากในด้านต่างๆ เป็นจำนวนมาก ผลการพัฒนาในจังหวัดตากที่สำคัญและเป็นที่ประจักษ์จนถึงทุกวันนี้ อาทิ
ด้านการคมนาคม ได้ก่อสร้างสะพานกิตติขจร ข้ามแม่น้ำปิง ก่อสร้างทางหลวงสายตาก-แม่สอด
ด้านเศรษฐกิจและสังคม ได้แปรสภาพแม่น้ำปิงโดยการขุดทรายกลางแม่น้ำปิงมาถมทั้งสองฝั่งแม่น้ำปิง ความยาวประมาณ 2.5 กิโลเมตร ทำให้พื้นที่ริมแม่น้ำปิงด้านตะวันออกทีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น จากเขตตำบลหนองหลวง จนถึงตำบลระแหงทำให้ตัวเมืองตากมี "เมืองตากใหม่" ใช้เป็นสวนธารณะและสิ่งก่อสร้างของทางราชการ เป็นย่านการค้าและที่อยู่อาศัยของประชาชน มีการสร้าง "ศูนย์ราชการ" ขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทย มีศาลากลางจังหวัด หน่วยราชการรวมอยู่ในที่แห่งเดียวกัน
ด้านการคมนาคม ได้ก่อสร้างสะพานกิตติขจร ข้ามแม่น้ำปิง ก่อสร้างทางหลวงสายตาก-แม่สอด
ด้านเศรษฐกิจและสังคม ได้แปรสภาพแม่น้ำปิงโดยการขุดทรายกลางแม่น้ำปิงมาถมทั้งสองฝั่งแม่น้ำปิง ความยาวประมาณ 2.5 กิโลเมตร ทำให้พื้นที่ริมแม่น้ำปิงด้านตะวันออกทีพื้นที่เพิ่มมากขึ้น จากเขตตำบลหนองหลวง จนถึงตำบลระแหงทำให้ตัวเมืองตากมี "เมืองตากใหม่" ใช้เป็นสวนธารณะและสิ่งก่อสร้างของทางราชการ เป็นย่านการค้าและที่อยู่อาศัยของประชาชน มีการสร้าง "ศูนย์ราชการ" ขึ้นเป็นครั้งแรกของประเทศไทย มีศาลากลางจังหวัด หน่วยราชการรวมอยู่ในที่แห่งเดียวกัน
ด้านการศึกษา ได้ยกระดับโรงเรียนอาชีวศึกษาตาก เป็นระดับวิทยาลัย ซึ่งปัจจุบันเป็นมหาวิทยาลัยเทคโลยีราชมงคลตาก สนับสนุนให้มีสถาบันการศึกษาพิเศษสำหรับผู้พิการและผู้ด้อยโอกาส เช่น โรงเรียนโสตศึกษาตาก โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ตาก
ด้านการส่งเสริมอาชีพ ได้สนับสนุนให้มีการจัดตั้งหน่วยงานที่ดูแลการประกอบอาชีพของประชาชน เช่น สถานีพัฒนาที่ดินตาก สถานีบำรุงพันธุ์สัตว์ตาก และศูนย์พัฒนาชาวเขา
บัดนี้แท่นอนุสรณ์สถานของมหาบุรุษชาวจังหวัดตาก และสมาคมชาวตาก ซึ่งเป็นที่สุดของสามัญชนที่มีครบในความงาม 4 ประการ คือ ชาติตระกูลงาม ปัญญางาม รูปร่างงาม และอายุงาม (สิริอายุ 93 ปี) ยืนตระหง่าน สง่างาม สมเกียรติ สมศักดิ์ศรี บนถนนจอมพล โดยเพ่งมองเบื้องหน้าสู่ลำน้ำปิง ซึ่งสายน้ำไหลผ่านไปประดุจเส้นทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้ทยอยผ่านไปตลอดครึ่งศตวรรษ หากเพ่งมองถึงขุนเขาอันสลับซับซ้อน ที่รวมเป็นเทือกเขาถนนธงชัย ประดุจแนวป้องกันความมั่นคง ปกป้องประเทศชาติและความพรั่งพร้อมมหาศาลของทรัพยากร แร่ธาตุราคาแพง เพื่อเป็นมรดกให้กับลูกหลานไทย ที่จะได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในอนาคต
(คัดลอกและเรียบเรียงจาก หนังสือที่ระลึกงานเปิดอนุสรณ์สถาน "จอมพลถนอม กิตติขจร" เพื่อบันทึกถึงสามัญชนคนเมืองตากคนหนึ่งที่ได้สร้างประโยชน์ให้แผ่นดินถิ่นกำเนิด ซึ่งประโยชน์ที่ว่านั้นเป็นผลและเป็นพื้นฐานกับวิถีชีวิตคนเมืองตาก ที่คนเมืองตากยังคงเล่าขานและชี้ชวนให้ดูสถานที่ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสมัยนั้นอยู่เสมอ ๆ )
บัดนี้แท่นอนุสรณ์สถานของมหาบุรุษชาวจังหวัดตาก และสมาคมชาวตาก ซึ่งเป็นที่สุดของสามัญชนที่มีครบในความงาม 4 ประการ คือ ชาติตระกูลงาม ปัญญางาม รูปร่างงาม และอายุงาม (สิริอายุ 93 ปี) ยืนตระหง่าน สง่างาม สมเกียรติ สมศักดิ์ศรี บนถนนจอมพล โดยเพ่งมองเบื้องหน้าสู่ลำน้ำปิง ซึ่งสายน้ำไหลผ่านไปประดุจเส้นทางการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้ทยอยผ่านไปตลอดครึ่งศตวรรษ หากเพ่งมองถึงขุนเขาอันสลับซับซ้อน ที่รวมเป็นเทือกเขาถนนธงชัย ประดุจแนวป้องกันความมั่นคง ปกป้องประเทศชาติและความพรั่งพร้อมมหาศาลของทรัพยากร แร่ธาตุราคาแพง เพื่อเป็นมรดกให้กับลูกหลานไทย ที่จะได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดในอนาคต
(คัดลอกและเรียบเรียงจาก หนังสือที่ระลึกงานเปิดอนุสรณ์สถาน "จอมพลถนอม กิตติขจร" เพื่อบันทึกถึงสามัญชนคนเมืองตากคนหนึ่งที่ได้สร้างประโยชน์ให้แผ่นดินถิ่นกำเนิด ซึ่งประโยชน์ที่ว่านั้นเป็นผลและเป็นพื้นฐานกับวิถีชีวิตคนเมืองตาก ที่คนเมืองตากยังคงเล่าขานและชี้ชวนให้ดูสถานที่ต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นในสมัยนั้นอยู่เสมอ ๆ )
รูปภาพงานเปิดอนุสรณ์สถาน "จอมพลถนอม กิตติขจร"
ครอบครัวและบุตรหลานของ "จอมพลถนอม กิตติขจร" เดินทางมาร่วมงาน
ข้าราชการที่มาร่วมงาน
ประชาชนที่มาร่วมงาน
นักเรียนจากโรงเรียนตากพิทยาคม บรรเลงดนตรีไทยตลอดงาน
บรรยากาศต้นฤดูหนาวของสวนธารณะริมแม่น้ำปิง
ที่ตั้งอนุสรณ์สถาน
นายสามารถ ลอยฟ้า ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก
ประธานในพิธีเปิดอนุสรณ์สถาน
นายอุดร ตันติสุนทร ตัวแทนคนเมืองตาก
ผู้นำในการจัดสร้างอนุสรณ์สถาน
เดินเข้าไปในงาน ได้ยินเสียงเหมือนกับเสียงรถแห่โฆษณา
ชักไม่แน่ใจว่ามางานถูกหรือเปล่า
มองแต่ไกล เห็นตำรวจ อส.ตั้งแถวขวางถนน
มีทหาร ตำรวจ จับกลุ่มตามร่มไม้เป็นกลุ่ม ๆ
คนแซวว่าให้กลับไปเปลี่ยนเสื้อก่อน ยังงง ๆ เปลี่ยนเสื้อทำไม
คนเสื้อแดง "นปช.แม่สอด" กำลังปราศัยอยู่นี่เอง
เครื่องเสียงดังมาก ได้ยินไปไกล
หากว่าในบริเวณงานพิธีกรหยุดพูด
เสียงจากเวทีนี้ได้ยินแทนทันที
(คนในงานอยู่ใกล้ลำโพงของงานมากกว่า)
เห็นสื่อมวลชนที่รู้จักกันหลายคน
เลยขอแทรกตัวเข้าถ่ายรูปแบบรีบ ๆ
ผู้หญิงคนนี้พูดได้เร้าใจมาก
คนส่วนใหญ่ ทั้งเจ้าหน้าที่ สื่อมวลชน
อมยิ้ม หัวเราะกันเป็นระยะ ๆ
มองไปรอบ ๆ มีอยู่ประมาณ 4 - 5 คน
ทั้งในชุดพลเรือนและเจ้าหน้าที่หน้าเคร่งเครียดมาก
คนในชุดพลเรือนที่หน้าเคร่งเครียดสุด ๆ
เดินไปทั่วบริเวณ หยุดดูอยู่เป็นที่ ๆ
ไม่รู้จะทำหน้าเครียดขนาดนั้นทำไม
คนเสื้อแดงมาแค่น่าจะไม่เกิน 30 คน
รู้สึกไม่เข้าท่าแล้ว กลับไปที่งานดีกว่า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น